แผงโซล่าเซลล์มีองค์ประกอบอะไรบ้าง?

แผงโซล่าเซลล์ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง? แผงโซล่าเซลล์ หรือที่เรียกกันว่าแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Panel) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยลดค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ องค์ประกอบของแผงโซล่าเซลล์ เพื่อให้เข้าใจหลักการทำงานและเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

องค์ประกอบหลักของ แผงโซล่าเซลล์

1.เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cells) เซลล์แสงอาทิตย์เป็นหัวใจหลักของ แผงโซล่าเซลล์ มีหน้าที่ในการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเซลล์เหล่านี้มักทำจากวัสดุ ซิลิคอน (Silicon) ซึ่งมีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าดี แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก:

  • Monocrystalline: มีประสิทธิภาพสูงสุดและทนทาน แต่ราคาสูง
  • Polycrystalline: ราคาย่อมเยาและประสิทธิภาพดี
  • Thin-film: บางเบา เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่น

2.กระจกป้องกัน (Tempered Glass)

  • กระจกป้องกันทำหน้าที่ปกป้องเซลล์แสงอาทิตย์จากฝุ่น น้ำ และแรงกระแทก โดยกระจกที่ใช้มักเป็นกระจกนิรภัย (Tempered Glass) ที่มีความแข็งแรงสูง ทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝนตกหนักหรือแสงแดดจ้า

3.กรอบอะลูมิเนียม (Aluminum Frame)

  • กรอบนี้มีหน้าที่ช่วยยึดแผงโซล่าเซลล์ให้แข็งแรงและป้องกันการบิดเบี้ยวจากแรงลม กรอบอลูมิเนียมยังช่วยให้การติดตั้งง่ายขึ้นและยืดอายุการใช้งานของแผง

4.ชั้นฟิล์ม EVA (Ethylene Vinyl Acetate)

  • ชั้นฟิล์ม EVA อยู่ระหว่างเซลล์แสงอาทิตย์และกระจก มีหน้าที่ป้องกันความชื้นและเพิ่มความคงทนของแผงโซล่าเซลล์ ชั้นฟิล์มนี้จะช่วยให้เซลล์แสงอาทิตย์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในระยะยาว

5.แผ่นรองหลัง (Backsheet)

  • แผ่นรองหลังเป็นชั้นที่อยู่ด้านล่างของแผง มีหน้าที่ป้องกันความชื้นและสิ่งสกปรกเข้าสู่เซลล์แสงอาทิตย์ วัสดุที่ใช้มักเป็นพลาสติกคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศ

6.จุดเชื่อมต่อไฟฟ้า (Junction Box)

  • จุดเชื่อมต่อไฟฟ้าเป็นตำแหน่งที่รวมสายไฟจากเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อส่งต่อพลังงานไปยังระบบไฟฟ้าหลัก ตัวกล่องมักมีการซีลอย่างดีเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่น

7.สายไฟและขั้วต่อ (Wires and Connectors)

  • สายไฟและขั้วต่อเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังอินเวอร์เตอร์ (Inverter) และระบบไฟฟ้าอื่นๆ โดยทั่วไปจะใช้ขั้วต่อแบบ MC4 ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพอากาศ

แผงโซล่าเซลล์มีกี่ประเภท และอะไรบ้าง

แผงโซล่าเซลล์ที่ใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้ามีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย โดยทั่วไปแล้ว แผงโซล่าเซลล์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ Monocrystalline, Polycrystalline, และ Thin-Film ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ดังนี้:

1. แผงโซล่าเซลล์ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Solar Panel)

คุณสมบัติ

  • ผลิตจากซิลิคอนบริสุทธิ์ (Pure Silicon) โดยเซลล์แต่ละชิ้นเป็นผลึกซิลิคอนเดี่ยว
  • มีสีดำเข้ม และมีลักษณะเป็นรูปทรงเหลี่ยมพร้อมมุมโค้งมน

ข้อดี

  • มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดาแผงโซล่าเซลล์ทุกประเภท
  • ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยกว่า เนื่องจากสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากในพื้นที่จำกัด
  • อายุการใช้งานยาวนานกว่า (เฉลี่ย 25 ปีขึ้นไป)
  • ทำงานได้ดีแม้ในสภาพแสงน้อย

ข้อเสีย

  • ราคาสูงกว่าแผงประเภทอื่น
  • การผลิตใช้พลังงานมากกว่า จึงอาจไม่เหมาะสำหรับงบประมาณจำกัด

2. แผงโซล่าเซลล์ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Solar Panel)

คุณสมบัติ

  • ผลิตจากซิลิคอนที่หลอมรวมกันหลายผลึก (Multi-Crystalline Silicon)
  • มีสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน พร้อมลวดลายของผลึกซิลิคอนที่มองเห็นได้ชัดเจน

ข้อดี

  • ราคาถูกกว่าแผงชนิดโมโนคริสตัลไลน์
  • กระบวนการผลิตใช้พลังงานน้อยกว่า จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

ข้อเสีย

  • ประสิทธิภาพต่ำกว่าโมโนคริสตัลไลน์ (ผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าในพื้นที่เท่ากัน)
  • ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งมากกว่า

3. แผงโซล่าเซลล์ชนิดฟิล์มบาง (Thin-Film Solar Panel)

คุณสมบัติ

  • ผลิตจากวัสดุหลากหลาย เช่น แคดเมียมเทลลูไรด์ (Cadmium Telluride) หรือซิลิคอนชนิดบาง (Amorphous Silicon)
  • มีความยืดหยุ่นและบางเบามากกว่าประเภทอื่น

ข้อดี

  • น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่น
  • ราคาถูกกว่า
  • ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อนและมีแสงน้อย

ข้อเสีย

  • ประสิทธิภาพต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแผงประเภทอื่น
  • อายุการใช้งานสั้นกว่า (เฉลี่ย 10-15 ปี)
  • ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งมากกว่ามาก

เปรียบเทียบแผงโซล่าเซลล์ทั้ง 3 ประเภท

ประเภทแผงโซล่าเซลล์ ประสิทธิภาพ ราคา อายุการใช้งาน ความเหมาะสมกับการใช้งาน
Monocrystalline สูงสุด สูง 25 ปีขึ้นไป บ้านและธุรกิจที่มีพื้นที่จำกัด
Polycrystalline ปานกลาง ปานกลาง 20-25 ปี ระบบที่ต้องการประหยัดงบ
Thin-Film ต่ำ ต่ำ 10-15 ปี งานชั่วคราวหรือพื้นที่ขนาดใหญ่
วิธีการดูแลรักษาแผงโซล่าเซลล์

การดูแลรักษาแผงโซล่าเซลล์เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ระบบโซลาร์เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ การบำรุงรักษาอย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนในการซ่อมแซม แต่ยังช่วยเพิ่มผลผลิตพลังงานอีกด้วย ต่อไปนี้คือวิธีการดูแลรักษาแผงโซล่าเซลล์ที่คุณควรรู้:

1. การทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์

เหตุผลที่ต้องทำความสะอาด : ฝุ่นละออง ใบไม้ คราบน้ำฝน และสิ่งสกปรกอื่นๆ อาจสะสมบนพื้นผิวแผงและลดประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า

วิธีทำความสะอาด

  • ใช้น้ำสะอาด: ใช้น้ำธรรมดาหรือน้ำที่ไม่มีสารเคมีเจือปนเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก
  • ใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่ม: หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่แข็งหรือแปรงที่อาจทำให้กระจกของแผงเกิดรอย
  • หลีกเลี่ยงเวลาที่แผงร้อนจัด: ทำความสะอาดในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อลดโอกาสที่แผงจะแตกจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
  • ระมัดระวังแรงดันน้ำ: หากใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ให้ตั้งค่าความดันให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้แผงเสียหาย

2. การตรวจสอบสายไฟและขั้วต่อ

สิ่งที่ควรตรวจสอบ

  • ขั้วต่อ (Connectors): ตรวจดูว่าขั้วต่อแน่นหนาและไม่มีสนิม
  • สายไฟ: ตรวจสอบว่าสายไฟไม่มีรอยแตกหรือฉีกขาด

ความถี่ในการตรวจสอบ : ควรตรวจสอบอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง หรือทุกครั้งที่พบว่าระบบทำงานผิดปกติ

3. การตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์เสริม

  • กรอบอลูมิเนียม: ตรวจดูว่ากรอบไม่มีรอยแตกหรือโค้งงอที่อาจเกิดจากลมแรงหรือสิ่งกีดขวาง
  • จุดยึด: ตรวจสอบว่าการติดตั้งยังคงแข็งแรงแน่นหนา ไม่มีส่วนที่หลวมซึ่งอาจทำให้แผงหลุดหรือเคลื่อนที่ได้

4. การตรวจสอบระบบไฟฟ้า

สิ่งที่ควรทำ

  • ตรวจสอบการทำงานของ อินเวอร์เตอร์ (Inverter): ดูว่าไฟสัญญาณหรือหน้าจอแสดงผลปกติ
  • เช็ค พลังงานที่ผลิตได้: ตรวจสอบตัวเลขจากแอปหรือระบบมอนิเตอร์ว่ามีการผลิตไฟฟ้าตามปกติ

ความถี่ในการตรวจสอบ : ทุกเดือนหรือทุกไตรมาส เพื่อป้องกันความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น

5. การป้องกันสัตว์และสิ่งรบกวน

  • ป้องกันนกและแมลง: ใช้ตาข่ายหรือวัสดุป้องกันรอบแผงเพื่อป้องกันนกทำรังหรือสิ่งรบกวนอื่นๆ
  • หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ใบไม้ตกสะสม: ตรวจสอบพื้นที่รอบแผงเพื่อให้ไม่มีเศษใบไม้หรือสิ่งกีดขวางที่อาจลดการรับแสง

6. การบำรุงรักษาตามฤดูกาล

หน้าฝน

  • ตรวจสอบการระบายน้ำบริเวณฐานแผงเพื่อป้องกันน้ำขัง
  • หลังฝนตก ควรเช็คคราบสกปรกหรือรอยน้ำบนแผง

หน้าร้อน

  • ทำความสะอาดบ่อยขึ้น เนื่องจากฝุ่นอาจสะสมมากในช่วงที่อากาศแห้ง

หน้าหนาว

  • หากอยู่ในพื้นที่ที่มีหิมะ ให้ปัดหิมะออกจากแผงด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ทำให้แผงเกิดรอย

7. การตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบระบบทั้งหมดอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจหาและแก้ไขปัญหาที่คุณอาจมองไม่เห็น เช่น:

  • การตรวจสอบวงจรไฟฟ้า
  • การตรวจสอบความสมบูรณ์ของเซลล์แสงอาทิตย์
  • การซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 096-5167121
Facebook : Suntech : แผงโซล่า Longi อินเวอร์เตอร์ Huawei อุปกรณ์ติดตั้งโซล่า ครบวงจร
Line : @suntech
Scroll to Top